สวนในตู้กระจก
ครั้งนี้เราจะพาไปดูเทคนิคการจัดสวนขนาดเล็กในภาชนะซึ่งต้องอาศัยหลักการดังกล่าว หากแต่เปลี่ยนจากขวดหรือกระถางมาเป็นตู้ปลาใส ๆ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าสามารถจัดสวนได้หลากหลายรูปแบบ และดูแลได้ไม่ยาก บ้านใครมีตู้ปลาเก่า ๆที่ไม่ได้ใช้ เตรียมไว้ใกล้มือ แล้วลองมาทำพร้อม ๆกันได้เลยค่ะ
มืออาชีพ
อาจารย์พลอย น้ำดี ผู้เชี่ยวชาญการจัดสวนในตู้ปลา เคยได้รับรางวัลพระราชทานจากการจัดประกวดตู้ปลาในงานประมงน้อมเกล้าฯ ปัจจุบันเปิดร้านต้นไม้และเป็นนักจัดสวนอิสระ
รูปแบบของสวนในตู้
การจัดสวนลักษณะนี้ก็คล้ายกับการจัดสวนขวดหรือสวนถาด เพียงแต่เปลี่ยนจากภาชนะมาเป็นตู้ปลาแทน สามารถจัดตกแต่งได้หลายรูปแบบ ดังนี้1. สวนบก เหมือนกับการจัดสวนถาดทั่วไปคือ จัดวางต้นไม้ให้เกิดจังหวะเหมือนสวนหย่อมขนาดเล็ก โดยใช้พรรณไม้ที่ชอบสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกัน เช่น ใช้พืชกลุ่มแคคตัสจัดสวนแบบทะเลทราย หรือใช้ไม้ในร่มจัดในรูปแบบสวนป่า
2. สวนกึ่งบกกึ่งน้ำ จัดตกแต่งโดยมีการทำระบบน้ำตกขนาดเล็กหมุนเวียนน้ำภายในตู้ หรืออาจทำบ่อน้ำเล็ก ๆไว้ในตู้ เหมาะสำหรับปลูกต้นไม้ที่ต้องการความชื้นสูง อาจเลี้ยงสัตว์ประเภทครึ่งบกครึ่งน้ำอย่างเต่าได้
3. สวนไม้น้ำ เป็นการจัดตกแต่งไม้น้ำสำหรับตู้ปลา โดยใช้ไม้น้ำมาจัดองค์ประกอบทำให้เกิดเรื่องราว หรือใช้สีสัน รูปทรงและผิวสัมผัสที่แตกต่างกันของไม้น้ำช่วยทำให้เกิดมิติ โดยมีน้ำเป็นตัวทำให้เกิดความเคลื่อนไหว อาจเลี้ยงปลาหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ความชอบ หากเลี้ยงปลาควรใส่ใจในเรื่องระบบกรองให้มีขนาดเหมาะสมกับจำนวนปลา ต้นไม้ และขนาดของตู้
ขั้นตอนการจัดสวนตู้
1. เช็ดตู้ปลาเปล่าให้สะอาด2. ใช้กระดาษแข็งหรือพลาสติกติดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมกะขนาดให้พอเหมาะกับต้นไม้ที่ต้องการปลูก จากนั้นวางลงในตู้ให้อยู่บริเวณกึ่งกลาง และโรยกรวดรอบนอกกรอบสี่เหลี่ยมที่ทำไว้ เพื่อป้องกันดินปลูกต้นไม้ทลายลงมา และช่วยบังดินด้านใน
3. ใส่สารพอลิเมอร์ที่แช่น้ำจนอุ้มน้ำเต็มที่รองก้นตู้บริเวณช่องสี่เหลี่ยมที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่ดินผสมทับลงไป หนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร
4. ถอดต้นไม้ออกจากกระถาง ค่อย ๆแกะวัสดุปลูกออกจากรากจนเหลือตุ้มรากเล็กที่สุด ควรระมัดระวังไม่ให้รากขาดเสียหาย จากนั้นจัดต้นไม้ลงในช่องสี่เหลี่ยม ค่อย ๆเรียงให้ได้จังหวะตามต้องการ โดยเรียงไม้ระดับต่ำไว้ด้านหน้า ไม้ระดับสูงกว่าอยู่ด้านหลัง และเลือกต้นไม้ที่มีใบละเอียดบ้างใหญ่บ้าง และต้นไม้ที่มีสีสันปลูกผสมกัน
5. เมื่อเรียงได้จังหวะตามต้องการแล้วจึงใส่ดินผสมลงไปตรงโคนต้นและกดเบาๆ เพื่อให้รากต้นไม้ยึดกับดิน จากนั้นโรยกรวดนอกกรอบสี่เหลี่ยม เพื่อป้องกันดินกระจายออกมา
6. รวบต้นไม้ขึ้นมาอย่างเบามือ แล้วค่อย ๆดึงกรอบสี่เหลี่ยมออก และเกลี่ยดินให้เรียบร้อย จากนั้นโรยปุ๋ยละลายช้าบางๆ
7. โรยกรวดปิดทับดิน (อาจเลือกใช้กรวดสลับสีกันได้ตามต้องการ) และจัดต้นไม้ให้ได้จังหวะ เก็บรายละเอียดต่าง ๆให้เรียบร้อย โดยใช้กรรไกรด้ามยาวเล็มกิ่งหักหรือเน่าเสียออก อาจจัดตกแต่งด้วยกิ่งไม้ หรือตุ๊กตาสัตว์เพิ่มเติม
8. สเปรย์น้ำให้ชุ่ม หากนำไปวางในอาคารควรติดตั้งหลอดไฟ เพื่อให้ต้นไม้ได้รับแสงสว่างเพียงพอที่จะนำไปใช้สังเคราะห์แสง แต่หากวางไว้ในบริเวณที่แสงส่องถึงก็ไม่จำเป็นต้องติดหลอดไฟ
** อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดสวนตู้กระจกทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ร้านจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับตู้ปลา แหล่งใหญ่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ ตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดธนบุรี-สนามหลวง 2 เป็นต้น
ระบบภายในตู้
• เนื่องจากสวนในตู้กระจกจะเห็นตั้งแต่พื้นตู้ด้านล่างขึ้นไป ดังนั้นจึงต้องใช้กรวดปกปิดให้ดูเรียบร้อย สิ่งสำคัญคือเรื่องการระบายน้ำ การจัดสวนในตู้จะไม่มีการระบายน้ำที่ดี จึงจำเป็นต้องมีการให้น้ำอย่างเหมาะสม โดยสามารถให้น้ำวันละครั้งแต่ให้จนชุ่ม หรืออีกวิธีง่าย ๆสำหรับผู้ไม่มีเวลาคือ ปักเทอร์โมมิเตอร์ไว้ในดินและดูอุณหภูมิ หากอุณหภูมิต่ำประมาณ 22 องศาเซลเซียส สันนิษฐานได้ว่าความชื้นพอเหมาะ และเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นจึงรดน้ำเพิ่มเติม ดังนั้นการใส่พอลิเมอร์ในดินตั้งแต่แรกมีส่วนช่วยได้มาก เพราะหากรดน้ำเกินพอลิเมอร์จะดูดซับน้ำไว้ ขณะเดียวกันก็ยังเก็บกักความชื้นไว้ได้นาน• กรณีที่ติดตั้งระบบให้น้ำ สามารถใช้ตัวตั้งเวลาให้น้ำอัตโนมัติ โดยให้น้ำวันละ 3 เวลา ครั้งละ 2 นาที และใช้หัวสปริงเกลอร์แบบพ่นหมอก สำหรับสวนกึ่งบกกึ่งน้ำที่มีการติดน้ำตกในตู้ควรต่อมายังระบบกรองและหมุนเวียนน้ำต่อไปยังสปริงเกลอร์เพื่อรดน้ำต้นไม้ในตู้ได้ สำหรับสวนไม้น้ำให้ใช้ระบบเดียวกับตู้ปลาคือต้องมีระบบกรองน้ำและติดเครื่องผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และควรเลี้ยงปลาซักเกอร์เพื่อช่วยกินตะไคร่และขมวนน้ำ ทั้งยังช่วยทำความสะอาดตู้ปลาด้วย
ขอบคุณแหล่งที่มา http://www.decorreport.com
No comments:
Post a Comment