5 วิธีรับมือปัญหาสวนช่วงหน้าร้อน

ฤดูร้อน ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน แต่ยังมีอิทธิพลสำคัญต่อสภาพแวดล้อมของสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลก ไม่เว้นแม้แต่ต้นไม้ภายในบ้านที่ได้รับการจัดสวนไว้อย่างสวยงามตามต้องการ แต่เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูร้อนที่มีแสงแดดจัดจ้าและอากาศร้อนจัด ก็มักจะมาพร้อมปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในสวนของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาไม้ใบแห้งเหี่ยวเฉา ดอกไม้ไม่ผลิใบสวยงามเท่าที่ควร ลำต้นไม่เจริญเติบโต หรือแม้แต่ปัญหาดินที่แห้งแตกและไม่อุ้มน้ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นไม้ในสวนที่ปลูกไว้โดยตรง จนอาจทำให้พืชพรรณไม้ในสวนเสื่อมโทรมจนยากที่จะเยียวยาให้กลับมาสวยงามในสภาพเดิมได้อีก บาคาร่า ในบทความนี้ forfur จึงรวบรวมวิธีที่ช่วยรับมือกับปัญหาสวนที่เกิดขึ้นบ่อยในหน้าร้อนมาฝากกันค่ะ

รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะภูมิอากาศในปัจจุบันทวีความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งผลให้ต้นไม้มีการคายน้ำเพิ่มมากขึ้นในช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนจัด การหมั่นรดน้ำให้พืชพรรณไม้อย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่มากกว่าปกติ ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในดินและทำให้ต้นไม้สามารถดูดน้ำจากใต้ดินไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของลำต้นได้มากขึ้น โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรดน้ำก็คือประมาณ 6-8 โมงเช้า และช่วง 5 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่อากาศกำลังดีและไม่มีแสงแดดจัดเกินไป จะทำให้ต้นไม้สามารถดูดซึมน้ำไปใช้ได้ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับแสงแดดตลอดวัน แต่หากอากาศร้อนมากก็อาจเพิ่มวัสดุคลุมดินสำหรับกักเก็บความชื้นให้นานมากขึ้น เช่น กาบมะพร้าว โดยนำไปใส่รอบบริเวณโคนต้นไม้ ก็จะช่วยเก็บความชื้นในดินให้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม

บำรุงดินให้เหมาะสม ดินเปรียบเสมือนลมหายใจของ ต้นไม้ หากดินมีคุณภาพดีก็จะช่วยให้ต้นไม้ในสวนสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม แต่ในช่วงที่อากาศร้อนจัดมักเกิดปัญหาดินแห้งแตกระแหงและไม่สามารถอุ้มน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ได้อย่างเพียงพอ เพราะน้ำในดินเกิดการระเหยไปในอากาศอย่างรวดเร็วตามอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น จึงควรหมั่นพรวนดินเป็นประจำ เพื่อปรับสภาพดินให้ร่วนซุยสำหรับการสร้างช่องว่างระหว่างพื้นที่ใต้ดินให้น้ำไหลซึมได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะบริเวณต้นไม้ หรืออาจบำรุงดินและต้นไม้เพิ่มเติมด้วยการเติมอินทรีย์วัตถุ ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกสำหรับบำรุงดินและต้นไม้ในบริเวณโคนต้น เพื่อหลีกเลี่ยงใบไหม้จากการถูกความร้อนของปุ๋ยนั่นเอง

ตัดแต่งกิ่งไม้เป็นประจำ การตัดแต่งกิ่งไม้ไม่เพียงช่วยให้ต้นไม้ได้รูปทรงที่สวยงามและช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้การจัดสวนของบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ต้นไม้มีอายุที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยควรเลือกตัดเฉพาะกิ่งของต้นไม้ที่ดูอ่อนแอออก เพื่อให้เกิดการแตกกิ่งใหม่ที่สวยงามและแข็งแรงมากกว่าเดิม อีกทั้งการตัดแต่งกิ่งยังช่วยป้องกันการลุกลามของโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

กำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ในฤดูร้อนเป็นช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัดและความชื้นต่ำ จึงทำให้วัชพืชหรือศัตรูของพืชจำพวกแมลงต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเพลี้ย แมลงหวี่ขาว หรือวัชพืชประเภทต้นหญ้า กาฝาก ซึ่งเป็นภัยร้ายและทำให้ต้นไม้เติบโตช้าและเสื่อมโทรมเร็ว จึงควรหมั่นดูแลสวนโดยการถอนวัชพืชเป็นประจำ และใช้น้ำฉีดพ่นรดน้ำในตอนเช้าให้ใบชุ่มเปียก เพื่อป้องกันแมลงต่างๆ ไม่ให้มาเกาะกัดกินใบไม้

ให้ความสำคัญกับทิศทางของแดด เมื่อแสงแดดที่ร้อนจัดมีส่วนสำคัญต่อการจัดสวนปลูกต้นไม้ และอาจนำมาซึ่งปัญหาสวนในช่วงหน้าร้อนได้อีกด้วย การให้ความสำคัญและพิจารณาทิศทางของแดดช่วงฤดูร้อนในบริเวณสวนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในช่วงหน้าร้อนจะมีแสงแดดส่องลงมายังสวนของบ้านโดยตรง จึงควรปรับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายและเลือกที่ตั้งของต้นไม้แต่ละชนิดให้เหมาะสมกับทิศทางของแดด หากเป็นไม้ร่มที่ไม่ต้องการแสงแดดจัด ควรปรับเปลี่ยนมุมที่ตั้งของพรรณไม้ใหม่ หรืออาจจัดทำซุ้มไม้เลื้อยที่ชอบแดดสำหรับบดบังแสงและเพิ่มร่มเงาให้กับพรรณไม้ร่มก็ได้เช่นกัน


ขอบคุณแหล่งที่มา   www.blogger.com